L'Oréal for the Future
พันธสัญญาของลอรีอัลด้านความยั่งยืนในปี 2030
"นับตั้งแต่ปี 2013 ลอรีอัลได้เปิดโครงการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นครั้งแรก โลกได้เปลี่ยนไปนับตั้งแต่นั้น ความท้าทายที่มนุษย์ต้องเผชิญนั้นยิ่งใหญ่มากกว่าทุกครั้ง เป้าหมายของเราจะต้องตอบโจทย์ต่อการแก้ปัญหาเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ท้าทายเหล่านั้น ไม่ใช่ว่าเราต้องทำให้ดีขึ้น แต่เราต้องทำในสิ่งที่มีความจำเป็น"
Alexandra Palt
Executive Vice President - Chief Corporate Responsibility Officer and Executive Vice President of the Fondation L’Oréal
เพื่อการต่อยอดจากผลลัพธ์ที่แข็งแกร่ง ลอรีอัลเดินหน้าเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โครงการ "L'Oreal For The Future" พันธกิจของลอรีอัลด้านความยั่งยืนสำหรับในปี 2030 คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะแสดงให้เห็นว่า วิสัยทัศน์ เป้าหมาย และหน้าที่ขององค์กรควรเป็นเช่นไร ในการมุ่งแก้ไขปัญหาสำคัญที่โลกกำลังเผชิญ
กลยุทธ์ของลอรีอัลประกอบด้วยหลักการสามข้อ
กลยุทธ์ของลอรีอัลด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประกอบด้วยหลักการสามข้อที่เป็นรูปธรรม และมีเป้าหมายด้านการลดผลกระทบที่ระบุเวลาชัดเจน โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายภายในปี 2030
1. ลอรีอัลเดินหน้าปรับการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ทุกการดำเนินงานของเรา ความเคารพต่อขีดจำกัดของโลก
นักวิทยาศาสตร์ต่างเห็นพ้องกันว่า การก้าวข้าม "ขีดจำกัดของโลก” จะทำลายระบบนิเวศที่ปลอดภัยของมวลมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ พันธกิจของบริษัทจึงเป็นการดำเนินงานด้วยความเคารพต่อขีดจำกัดของโลก และปรับการดำเนินงานให้เข้ากับขีดจำกัดดังกล่าว ตามที่กำหนดโดยหลักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยเราได้ดำเนินการภายใต้โครงการใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร และใช้มาตรการที่วัดผลได้ต่าง ๆ เพื่อจำกัดผลกระทบจากการดำเนินงานของเรา ต่อสภาพอากาศ แหล่งน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ แหล่งน้ำ และทรัพยากรทางธรรมชาติ
2. ลอรีอัลจะเพิ่มศักยภาพให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจบริษัท เพื่อช่วยให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ลอรีอัลเชื่อว่า การทำให้ลูกค้า ซัพพลายเออร์ และผู้บริโภค มีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นความรับผิดชอบของบริษัท ด้วยเหตุนี้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ เพื่อการตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกัน รวมถึงการเพิ่มศักยภาพให้กับภาคส่วนที่เราดำเนินงานด้วย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของปี 2030 จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ของลอรีอัล ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่แสดงข้อมูลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากแบรนด์ในเครืออย่าง การ์นิเย่ เครื่องมือนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ และสามารถรับทราบข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับประกอบการตัดสินในเลือกซื้อผลิตภัณฑ์
3. บริษัทมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลก ด้วยการสนับสนุนความต้องการเร่งด่วนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในโมเดลธุรกิจ ลอรีอัลต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโลกที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน, ภาวะก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมความงาม เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำเพื่อสังคม ลอรีอัลจึงได้จัดสรรงบประมาณถึง 100 ล้านยูโร เพื่อการลงทุนที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ด้านการฟื้นฟูระบบนิเวศ ลดสภาวะโลกร้อน ลดการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก และการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้ยังได้จัดสรรงบประมาณอีก 50 ล้านยูโรเข้ากองทุนการกุศลเพื่อสนับสนุนสตรีผู้ด้อยโอกาส
การพัฒนาอย่างยั่งยืนของลอรีอัล ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์
ตั้งแต่แรกเริ่ม ลอรีอัลตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ในฐานะบริษัท ก้าวแรกและก้าวสำคัญในการเริ่มแก้ไขปัญหาเพื่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือจากโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของเรา โดยกระบวนการแรกกำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์
-78%
นับตั้งแต่ปี 2005 ลอรีอัล กรุ๊ปได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงาน และศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทได้ -78% ซึ่งลดได้มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ -60% ภายในปี 2020 ในขณะที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 37% เทียบจากช่วงเวลาเดียวกัน
35
ในปลายปี 2019 สถานประกอบการของบริษัททั้งหมด 35 แห่ง มีการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (หมายถึงใช้การใช้พลังงานทดแทน 100%) ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโรงงานถึง 14 แห่ง
ในปี 2013 ลอรีอัลได้ทำการปรับการดำเนินธุรกิจหลัก คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม ผ่านโครงการ Sharing Beauty With All หรือ "การแบ่งปันความงามเพื่อทุกสรรพสิ่ง" พร้อมประกาศเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับปี 2020 โดยมีนวัตกรรมเครื่องมือ "SPOT" (ย่อมาจาก Sustainable Product Optimization Tool) เป็นหลักสำคัญ ซึ่งทำให้สามารถประเมินข้อมูล และพัฒนาผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ได้ทุกแบรนด์ ฉะนั้น ความยั่งยืน จึงได้ถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ของลอรีอัล ตั้งแต่ช่วงแรกของกระบวนการ
85%
ภายในปลายปี 2019 จำนวน 85% ของผลิตภัณฑ์ใหม่หรือผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่ จะได้รับการพัฒนามีผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมหรือสังคมที่ดีขึ้น
90,635
ภายในปลายปี 2019 ลอรีอัลได้ช่วยเหลือผู้คนจากชุมชนด้อยโอกาสถึง 90,635 ราย ให้ได้รับโอกาสในการจ้างงาน ผ่านโครงการจ้างงานผู้ด้อยโอกาสสังคม Solidarity Sourcing และโครงการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ L'Oreal For The Future (EN)
3
ลอรีอัลเป็นบริษัทเดียวในโลก ที่ได้รับคะแนน "A" ในทั้งการจัดอันดับทั้งสามด้าน ได้แก่ ปกป้องอุณหภูมิ การจัดการน้ำ การอนุรักษ์ป่าไม้ เป็นเวลาต่อเนื่อง 4 ปี