LOREAL0283622MD hero

การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จของเราในปี 2022
สำหรับลอรีอัล น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั้งในกระบวนการผลิตและในการใช้ผลิตภัณฑ์ จึงถือได้ว่าน้ำเป็นศูนย์กลางของธุรกิจเรา ความสามารถในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคของเราได้ครบถ้วน จึงขึ้นอยู่กับการเข้าถึง การบริหารจัดการ และการอนุรักษ์น้ำอย่างยั่งยืน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลอรีอัลมุ่งมั่นเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ได้มีส่วนร่วมในรักษาคุณภาพและปริมาณที่สูงอย่างยั่งยืนของน้ำตลอดห่วงโซ่มูลค่าของเรา และรวมไปถึงในลุ่มน้ำ และชุมชนที่เราให้บริการและดำเนินกิจการ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์จะมีบทบาทสำคัญในการทำงานของเราเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรอันล้ำค่านี้ไว้

เป้าหมายของเรา

100%

ภายในปี 2030 เราจะประเมินสูตรผลิตภัณฑ์ของเราทุกสูตรด้วยแพลตฟอร์มทดสอบสภาพแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์นั้นเป็นมิตรต่อระบบนิเวศทางน้ำทั้งหมด ไม่ว่าจะบนภาคพื้นหรือชายฝั่ง

-25%

ภายในปี 2030 เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคของเราสามารถลดการใช้น้ำ ที่เป็นผลมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของเราลง 25% โดยเฉลี่ยต่อผลิตภัณฑ์ เมื่อเทียบกับปี 2016

100%

ในปี 2030 น้ำที่ใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรมของเราทั้งหมดจะนำไปรีไซเคิลและวนกลับมาใช้ใหม่

100%

ภายในปี 2030 ซัพพลายเออร์ที่สำคัญของเราจะใช้น้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ที่ดำเนินงาน

สิ่งที่เราทำสำเร็จแล้ว

-54%

เราได้ลดปริมาณการใช้น้ำในโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าลง 54% ต่อผลิตภัณฑ์เมื่อเทียบกับปี 2005

5

โรงงาน 5 แห่งของเราเป็น "โรงงานระบบน้ำแบบหมุนเวียน" กล่าวคือ น้ำทั้งหมดที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมจะถูกนำมาบำบัด รีไซเคิล และวนกลับมาใช้ใหม่

นโยบายเรื่องน้ำของลอรีอัล

สำหรับลอรีอัล น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั้งในกระบวนการผลิตและในการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา จึงถือได้ว่าน้ำเป็นหัวใจของธุรกิจของเรา

ความสามารถในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคของเราได้อย่างครบถ้วน จึงขึ้นอยู่กับการเข้าถึง การบริหารจัดการ และการอนุรักษ์น้ำอย่างยั่งยืน

อ่านเกี่ยวกับนโยบายเรื่องน้ำของลอรีอัลเพิ่มเติม

ความร่วมมือระหว่างลอรีอัลและโจซา (Gjosa)

เราต้องการน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกชีวิตบนโลก และปัญหาสำคัญทางกลยุทธ์สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัย คือการใช้น้ำจำนวนมากในขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ การทำน้ำอุ่นยังต้องใช้พลังงานในการทำความร้อนและกลายเป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลดปริมาณน้ำที่ต้องใช้สำหรับการใช้เครื่องสำอางจะช่วยแก้ปัญหาได้สองประเด็น ได้แก่การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัญหานั้น

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ลอรีอัลได้ร่วมมือกับโจซา (Gjosa), บริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และได้มีการเปิดตัว L'Oréal Water Saver ร่วมกันเมื่อเดือนมกราคมปี 2021 นวัตกรรมนี้ได้เข้ามาพลิกโฉมการสระผมอย่างสิ้นเชิงด้วยการลดปริมาณการใช้น้ำ และในขณะเดียวกันก็พัฒนาในด้านประสบการณ์และประสิทธิภาพการดูแลเส้นผม ทั้งสำหรับในร้านทำผมและที่บ้าน โดยบริษัทสตาร์ทอัพโจซาได้พัฒนาฝักบัวแบบประหยัดน้ำ (ที่ใช้น้ำ 2.4 ลิตรต่อนาทีแทนการใช้น้ำปกติที่ใช้ 7 ลิตร) ซึ่งช่วยลดการไหลของน้ำแต่ยังสามารถเร่งความเร็วของหยดน้ำได้

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับนวัตกรรมนี้ นักวิทยาศาสตร์ของลอรีอัลได้ คิดค้นแชมพูที่ล้างออกง่ายที่สามารถใช้ใส่ในหัวฝักบัวได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการปรับจูนภายใต้สภาวะการใช้งานจริง เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถสระล้างแชมพูได้อย่างเหมาะสมและสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและการใช้น้ำได้เกือบ 65%

ศึกษาเกี่ยวกับ Water Saver เพิ่มเติม